ส่วนหนึ่งมาจากที่ประเทศไทยไม่มี กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นเพียงกฎหมายพ่วงเข้ากับกฎหมายใหญ่คดีอาญา - คดีแพ่ง ต้องใช้เวลาการสอบสวน พิพากษานานหลายปี ที่สำคัญศาลก็ไม่ค่อยเข้าใจในประเด็นเกี่ยวกับการลงทุน จึงทำให้การตัดสินในบางคดีเป็นไปในแบบที่ไม่ค่อยถูกต้อง
สมัครงาน/ฝึกงานข่าวประชาสัมพันธ์คณะกรรมการนโยบาย ส.
การค้าไม่เอื้อประโยชน์ "วิกฤต"ตลาดหุ้นไทย
"การแจกเงินมันก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่มันไม่ยั่งยืน พอเงินหมดก็หมด แต่ถ้าคุณพัฒนาการเรียนรู้ ทำโครงการที่ให้พวกนี้ต่อยอดได้ บางทีหลังจากเขาทำเป็น นอกจากเขาจะทำงานได้สบาย เขาก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเองและประเทศ สุดท้ายเงินในประเทศก็จะเพิ่มขึ้น"
ขณะที่ “สีเขียว” แม้จะเป็นสีธรรมชาติและสบายตา แต่สีเขียวก็ถูกใช้ในเทศกาลวันเช็งเม้งหรือวันรวมญาติ เพื่อไหว้และระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
เปิดใจคุย "ธรณ์" วิกฤตปะการังฟอกขาว ในวันใต้ท้องทะเลไทยเดือด
รู้หรือไม่ ช่วงที่กระดานหุ้นไทยร่วงแดงเถือก จนหลายคนแซวติดตลกว่า คงต้องซื้อ “แว่นสีเขียว” ใส่แล้ว เผื่อทุกอย่างจะได้ดีขึ้น แต่มีประเทศหนึ่งที่ใช้สีดัชนีตลาดหุ้น “สวนทาง” กับตลาดหุ้นทั่วโลก นั่นคือ “ตลาดหุ้นจีน” ที่ใช้ “สีแดง” เพื่อสื่อถึงหุ้นปรับตัวขึ้น และ “สีเขียว” หมายถึงหุ้นปรับตัวลง
“สีเขียว” กับความหมายในเทศกาลเช็งเม้ง
เท่านั้นยังไม่พอ แม้แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีน ก็ใช้ทั้งสองสีนี้ในทำนองเดียวกันกับตลาดหุ้นจีน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
วัฒนธรรมจีนชื่นชอบสีแดงมาก มองว่า “สีแดง” เป็น “สีแห่งความมงคลและรุ่งเรือง” ดังจะเห็นได้จากเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานมงคลจีนล้วนประดับด้วยสีแดง
ทำไม ‘จีน’ ไม่แจกเงินทั้งประเทศ แม้เผชิญเศรษฐกิจซบเซา
จึงต้องทำความเข้าใจว่า best website "โลกสมัยใหม่ ตลาดหุ้น คือ หัวใจของเศรษฐกิจ"
คนส่วนใหญ่ซื้อขายหุ้นตัวไหน? นักลงทุนหลายคนคงอยากรู้ การนั่งไล่ดูหุ้นทีละตัว อาจใช้เวลานาน กว่าจะรู้ว่าหุ้นไหนเขียว หุ้นไหนแดงอาจทำให้พลาดโอกาสทำกำไร
นอกจากนี้ จีนมีสำนวนสำคัญหนึ่ง คือ “ไต้ลวี่เม่า” (戴绿帽) ซึ่งแปลว่า “สวมหมวกสีเขียว” อันหมายถึง การโดนสวมเขาหรือถูกคนรักนอกใจ ดังนั้นจึงเป็นข้อระวังว่า ไม่ควรซื้อหมวกสีเขียวเป็นของฝากให้ชาวจีน